loading...

พ่อเตะลูก สารภาพสิ้น-เมายา ขอโทษและเสียใจ แม่แอบถ่ายคลิป ลงเน็ตให้คนช่วย




พ่อโหดเมายาทำร้ายลูกชายวัย 5 ขวบในคลิป สารภาพสิ้นลงมือทำร้ายเพราะเมายาและไม่พอใจที่ลูกทำการบ้านไม่ได้ดังใจ เผยเป็นคลิปสลดใจ ที่แม่แอบถ่ายเอาไว้เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่กล้าห้ามปราม พม.ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยดูแลแล้ว เผยเหตุเกิดในแฟลตการเคหะหาดใหญ่ ตร.บุกจับพบพ่อในสภาพ เมายา อ้างเหตุเมาและเครียดเพราะตกงาน แฉเบื้องหลังพ่อโหดระแวงว่าเด็กไม่ใช่ลูกตัวเอง และชอบทุบตีลูกๆ เป็นประจำ จนลูกคนโตต้องหนีไปอยู่กับญาติ เลยมาลงมือกับลูกคนรองแทน 


จาก กรณีคลิปผ่านสื่อสังคมออนไลน์พ่อในอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ทำร้ายลูกชายวัย 5 ขวบ ด้วยการใช้เท้าเตะหน้าถึง 12 ครั้ง ก่อนที่จะตบและจับยกขึ้นบีบคอทิ้งลงกับพื้น ระหว่างที่ตรวจการบ้านลูกชายแต่ลูกไม่สามารถตอบคำถามวิชาเลขได้ ในขณะที่พ่ออยู่ในอาการคล้ายคนมึนเมา และกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงพฤติกรรมความโหดร้าย ซึ่งคลิปดังกล่าวแม่เด็กแอบถ่ายเอาไว้และเผยแพร่เพื่อขอความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่กล้าห้ามปรามสามีที่เป็นคนอารมณ์ร้อน


ความคืบ หน้าเมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่สภ. หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา พร้อมด้วยพ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผู้กำกับการ สภ. หาดใหญ่ และ น.ส.ชมฤดี นาทะศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สงขลา ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายพีระศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี พ่อแท้ๆ ของเด็กชายวัย 5 ขวบ ที่ปรากฏในคลิปทำร้ายร่างกาย


พล.ต.ต. อำพลกล่าวว่า เหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปเกิดขึ้นเมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมาภายในแฟลตการเคหะแห่งชาติ ซึ่งหลังจากได้รับทราบให้ตำรวจท้องที่สืบ สวนกระทั่งทราบเบาะแส และเข้าจับกุมนายพีระศักดิ์ได้ที่ห้องพัก ระหว่างเข้าจับกุมคนร้ายมีอาการมึนเมาและพูดคุยไม่รู้เรื่อง จากผลตรวจปัสสาวะพบว่ามีสารเสพติด


พล.ต.ต.อำพลกล่าวอีกว่า การนำตัวนาย พีระศักดิ์มาแถลงข่าวไม่ได้ตั้งใจจะประจาน แต่ต้องการให้เป็นตัวอย่างและอุทาหรณ์ของครอบครัวอื่นๆ ที่อาจจะรักลูกแต่ใช้วิธีการสอนที่ผิด ซึ่งการกระทำของนายพีระศักดิ์กับลูกอาจจะหนักเกินไป ตรวจสอบพบว่าพฤติ กรรมดังกล่าวทำให้ลูกชายคนโตอายุ 6 ขวบ ต้องไปอยู่กับญาติที่ภูเก็ต ส่วนลูกที่ปรากฏในคลิปเป็นลูกคนที่สอง และยังมีลูกสาวอีก 2 คน อายุ 4 ขวบกับ 2 ขวบ ส่วนภรรยามีอาชีพทำ งานร้านอาหารรายได้วันละ 400 บาท ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะมาจากความเครียด เนื่องจากตกงานและอยู่ในความมึนเมา


เบื้องต้นแจ้งข้อหาเสพยา เสพติดให้โทษประเภท 1 (เมตแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้เกิดอันตราย แก่ร่างกายหรือจิตใจ, กระทำหรือละเว้นการ กระทำอันเป็นการทารุณกรรมแก่ร่างกายหรือจิตใจ ของเด็กและกระทำรุนแรงในครอบครัว ซึ่งนายพีระศักดิ์ยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาและสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป


โดย นายพีระศักดิ์ให้การว่า ก่อนหน้านี้มีอาชีพพนักงานส่งแก๊ส แต่ช่วงหลังเจ้าของร้านเลิกจ้าง ด้วยความเครียดบวกกับการเสพยา จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว โดยเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ที่ทำลงไปเพราะโมโหที่พยายามสอนการบ้าน แล้วลูกไม่จำ รวมทั้งความเครียดที่ตกงานและความเมา อยากจะขอโทษอยากกอดและพบหน้าลูกชาย ยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด และสงสารลูกมาก


ด้านน.ส.ชมฤดี นาทะศิริ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สงขลา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ จะไปสอบข้อเท็จจริงสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวเพิ่มเติม และเร่งดูแลช่วยเหลือเยียวยาสภาพร่างกายและจิตใจของเด็ก ซึ่งขณะนี้สภาพจิตใจยังไม่ปกติ ต้องพาไปพบแพทย์และนักจิตวิทยาเพื่อเร่งฟื้นฟู ส่วนสภาพร่างกายนั้นไม่ได้รับผลกระทบหรือบาดเจ็บรุนแรงใดๆ เจ้าหน้าที่จะดูแลช่วยเหลือแม่รวมทั้งลูกๆ ทั้งหมดด้วย ทั้งนี้หนูน้อยคนนี้ยังสามารถอยู่ในความดูแลของแม่ที่แฟลตการเคหะได้


พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า พม.เข้าคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและครอบครัวแล้ว โดยมอบหมายและกำชับให้หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นหน่วยงานในพื้นที่และเป็นผู้ที่มีหน้าที่คุ้ม ครองสวัสดิภาพเด็กตามพระราชบัญญัติคุ้ม ครองเด็ก พ.ศ.2546 ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและช่วยเหลือ


"เจ้าหน้าที่ได้ลง พื้นที่ตรวจสอบพบว่า เด็กชายที่ถูกทารุณกรรม อายุ 5 ปี เรียนหนังสือชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.สงขลา พ่อไม่ได้ประกอบอาชีพ และแม่เป็นชาวเขาเผ่ามูเซอ ไม่มีบัตรประชาชน อายุ 25 ปี สาเหตุที่พ่อทำร้ายร่างกายลูกนั้น เนื่องจากพ่อติดยาเสพติด ซึ่งจะทำร้ายร่างกายเด็กอยู่เป็นประจำ เพราะมีความเชื่อว่าลูกคนนี้ไม่ใช่ลูกของตนเอง ส่วนแม่ไม่กล้าแจ้งความเนื่อง จากไม่มีบัตรประชาชน และปู่ของเด็กเป็น เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย" พล.ต.อ.อดุลย์กล่าว


รมว.พม.กล่าวอีก ว่า สภาพร่างกายของเด็กบาดเจ็บฟกช้ำบริเวณต้นคอ ซึ่งแพทย์ไม่พบความผิดปกติร้ายแรง ส่วนสภาพจิตใจเด็กยังมีอาการหวาดกลัวพ่อ หลังจากการตรวจสอบและประเมินสภาพปัญหาแล้ว เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวเร่งฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจของเด็ก โดยประสานนำเด็กไปพบจิตแพทย์ นอกจากนี้ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภค และเงินช่วยเหลือ 2,000 บาท เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนเบื้องต้น


พล.ต.อ. อดุลย์กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำความรุนแรงต่อเด็ก ซึ่งเป็นปัญหาของสังคมที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ขอให้พ่อแม่ ผู้ปกครอง เลี้ยงดูลูกหลานเป็นอย่างดี ด้วยความรักความเข้าใจคุ้มครองสวัสดิภาพทั้งด้านร่างกายและจิตใจให้ดี แต่หากเด็กทำอะไรในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ควรให้การอบรมสั่งสอนด้วยคำพูดเพื่อสร้างความเข้าใจ ไม่ควรใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายเด็ก และหากประชาชนประสบพบเห็นปัญหาในลักษณะดังกล่าว สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร.1300 ตลอด 24 ชั่วโมง




ที่มาhttp://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1437963887

>> ชอบข่าวนี้ กรุณากดแชร์ด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ....!!!

loading...